ฟังก์ชัน MID ใน Excel ตัดเอาอักขระตามจำนวนที่ระบุ ณ ตำแหน่งที่ต้องการ

ฟังก์ชัน MID ใน Excel ใช้สำหรับตัดเอาอักขระจากข้อความตามจำนวนที่ระบุ ณ ตำแหน่งที่ต้องการ โดยมีรูปแบบการใช้งานดังนี้

MID(text,start_num,num_chars)
  • text คือ ข้อความต้นทางที่ต้องการนำมาตัด
  • start_num คือ ตำแหน่งของอักขระตัวแรกที่ต้องการตัด
    • ถ้า start_num มากกว่าความยาวของข้อความ จะคืนค่าเป็นค่าว่าง
    • ถ้า start_num น้อยกว่าความยาวของข้อความ แต่ start_num บวก num_chars แล้วเกินความยาวของข้อความ จะคืนค่ากลับมาเป็นอักขระถึงอักขระตัวสุดท้ายของข้อความ
    • ถ้า start_num น้อยกว่า 1 จะเกิดข้อผิดพลาด
  • num_chars คือ จำนวนอักขระที่ต้องการ
    • ถ้า num_chars เป็นค่าลบ จะเกิดข้อผิดพลาด

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน MID

สมมติว่าเรามีข้อมูลเก็บอยู่ที่เซลล์ A1 ดังภาพ

ถ้าต้องการตัดเอาตัวเลข 4 ตัวตรงกลาง สามารถเขียนสูตรได้ดังนี้

=MID(A1,6,4)
  • A1 คือเซลล์ที่เก็บข้อมูลต้นทางที่ต้องการนำมาตัด
  • 6 คือตำแหน่งเริ่มต้นของข้อมูลที่ต้องการ (ต้องการเริ่มตัดข้อความเริ่มจากตำแหน่งที่ 6)
  • 4 คือจำนวนอักขระที่ต้องการ

ผลลัพธ์ จะได้ตัวเลข 4 ตัว เริ่มจากตัวที่ 6 จากข้อมูลต้นทาง

ถ้าระบุ start_num มากกว่าความยาวจริงของข้อความต้นทาง จะได้ผลลัพธ์เป็นค่าว่าง

=MID(A1,60,4)

ถ้าระบุ start_num น้อยกว่าความยาวของข้อความต้นทาง แต่ start_num บวก num_chars แล้วมากกว่าความยาวจริงของข้อความต้นทาง จะได้ผลลัพธ์เป็นอักขระตั้งแต่ตำแหน่ง start_num จนถึงอักขระตัวสุดท้ายในข้อความต้นทาง

=MID(A1,6,40)

ถ้าระบุ start_num น้อยกว่า 1 จะเกิดข้อผิดพลาด

=MID(A1,0,4)

ถ้าระบุ num_chars เป็น 0 จะได้ผลลัพธ์เป็นค่าว่าง

=MID(A1,6,0)

ถ้าระบุ num_chars เป็นค่าลบ จะเกิดข้อผิดพลาด

=MID(A1,6,-1)