วิธีเพิ่มฟิลด์ข้อมูลของสมาชิกใน Moodle

ใน Moodle เมื่อเราเพิ่มสมาชิกเข้ามาในระบบ จะมีฟิลด์ข้อมูลให้กรอกจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอ แต่ในบางองค์กร อาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนตัวสมาชิกเพิ่มเติมมากกว่านั้น Moodle ก็อนุญาตให้เราเพิ่มฟิลด์ข้อมูลเพิ่มเติมได้

ฟิลด์ข้อมูลของสมาชิกที่ Moodle กำหนดไว้ในขั้นต้นจะมีรายละเอียดดังภาพ

ถ้าในองค์กรของเราต้องการเก็บข้อมูลของสมาชิกมากกว่านี้ ก็สามารถกำหนดเพิ่มเติมได้ ด้วยวิธีดังนี้

  1. คลิกเมนู Site administration ที่แถบเมนูด้านซ้ายมือ
  2. เมื่อเข้าสู่หน้า Site administration ให้คลิกที่แท็บ Users
  3. ภายใต้แท็บ Users ให้คลิกที่ User profile fields

ในหน้า User profile fields ให้คลิกที่ปุ่ม Create a new profile category เพื่อสร้างหมวดหมู่ใหม่เป็นหมวดหมู่ขององค์กรของเราเอง (เพื่อป้องกันความสับสน)

ที่หน้า Creating a new category ให้ตั้งชื่อหมวดหมู่ให้สื่อความหมายในช่อง Category name (ต้องไม่ซ้ำกับหมวดหมู่อื่นที่มีอยู่แล้ว)

ตั้งชื่อหมวดหมู่เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Save changes เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

จะกลับเข้าสู่หน้า User profile fields อีกครั้ง ให้คลิกเลือกประเภทฟิลด์ที่ต้องการเพิ่มที่หัวข้อ Create a new profile field

โดยมีฟิลด์ที่เราสามารถเพิ่มได้ 5 ประเภท ดังนี้

  • Checkbox ฟิลด์สำหรับติ๊กเลือกได้หลายตัวเลือก
  • Date/Time ข้อมูลประเภทวัน/เวลา
  • Drop-down menu ฟิลด์ข้อมูลแบบคลิกเลือกรายการ
  • Text area กล่องข้อความที่สามารถป้อนข้อความได้จำนวนมาก
  • Text input กล่องข้อความแบบสั้น

เมื่อคลิกเลือกประเภทฟิลด์ที่ต้องการเพิ่มแล้ว จะเข้าสู่หน้าสำหรับตั้งค่าให้ฟิลด์นั้น ๆ ในตัวอย่างจะเลือกเป็น Text input เพื่อให้สมาชิกเพิ่มอีเมลสำรอง

ให้กำหนดการตั้งค่าต่าง ๆ ดังนี้

ฟิลด์ข้อมูลประเภท Text input

หัวข้อ Custom settings

  • Short name (must be unique) ระบุชื่อฟิลด์สั้น ๆ (ต้องไม่ซ้ำกับชื่อฟิลด์อื่น)
  • Name ชื่อฟิลด์
  • Description of the field ระบุรายละเอียดของฟิลด์
  • Is this field required? กำหนดว่าจะบังคับให้ระบุฟิลด์นี้หรือไม่
  • Is this field locked? จะล๊อคฟิลค์นี้ไว้หรือไม่
  • Should the data be unique? กำหนดว่าข้อมูลในฟิล์นี้ต้องไม่ซ้ำกับข้อมูลอื่น
  • Display on signup page? กำหนดให้แสดงในหน้าสมัครสมาชิกหรือไม่
  • Who is this field visible to? เลือกว่าให้ใครเห็นฟิลด์นี้บ้าง
  • Category เลือกหมวดหมู่ของฟิลด์ข้อมูล

หัวข้อ Specific settings

  • Default value กำหนดข้อมูลเริ่มต้นให้ฟิลด์
  • Display size กำหนดขนาดในการแสดงผล
  • Maximum length กำหนดความยาวสูงสุดของข้อความที่สามารถกรอกได้
  • Is this a password field? กำหนดว่าให้ฟิลด์นี้เป็นฟิลด์ประเภทรหัสผ่านหรือไม่ (ถ้ากำหนดเป็นประเภทรหัสผ่านจะมีการปิดบังข้อมูลขณะกรอก)
  • Link กำหนดข้อความให้เป็นลิงก์
  • Link target กำหนดว่าจะให้เปิดลิงก์ในรูปแบบไหน

เมื่อตั้งค่าครบแล้วให้คลิกปุ่ม Save changes เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

ฟิลด์ที่เราเพิ่มล่าสุดก็จะมาปรากฏที่รายการ Profile field

สำหรับฟิลด์ข้อมูลประเภทอื่น ๆ ก็จะมีการตั้งค่าคล้ายเหมือนกันในส่วนของหัวข้อ Custom settings

แต่จะมีการตั้งค่าที่ต่างกันในส่วนของหัวข้อ Specific settings ดังนี้

ฟิลด์ข้อมูลประเภท Checkbox

  • Checked by default ตั้งค่าว่าจะให้ติ๊กตัวเลือกไว้โดยอัตโนมัติหรือไม่

ฟิลด์ข้อมูลประเภท Date/Time

  • Start year กำหนดปีเริ่มต้น
  • End year กำหนดปีสิ้นสุด
  • Include time? กำหนดว่าจะให้แสดงเวลาด้วยหรือไม่

ฟิลด์ข้อมูลประเภท Drop-down menu

  • Menu options (one per line) ระบุตัวเลือกี่จะให้แสดงในเมนู (แถวละ 1 ตัวเลือก)
  • Default value ระบุตัวเลือกที่จะให้ถูกเลือกอัตโนมัติ

ฟิลด์ข้อมูลประเภท Text area

  • Default value กำหนดข้อความเริ่มต้นไว้ล่วงหน้า

ตรวจสอบว่าฟิลด์ที่เพิ่มมาใหม่ใช้งานได้ตามที่ต้องการหรือไม่

เมื่อกำหนดฟิลด์ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี้เรามาลองทดสอบดูว่าฟิลด์ที่เราเพิ่มเข้ามาสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ โดยคลิกที่โพรไฟล์ที่มุมขวาด้านบน แล้วคลิกที่เมนู Profile

คลิกที่ Edit profile

ในหน้า Edit profile เลื่อนลงมาด้านล่างสุด จะเห็นว่า ฟิลด์ที่เราเพิ่มเข้ามาใหม่แสดงอยู่ภายใต้หมวดหมู่ที่เรากำหนด

ให้ลองกรอกข้อมูลแล้วคลิกปุ่ม Update profile

ข้อมูลที่เรากรอกไปแสดงผลในหน้า Profile