เมื่อเปิดห้องประชุมแล้ว สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องคำนึงถึงอย่างยิ่งก็คือ เรื่องของความปลอดภัย ดังนั้น ในฐานะผู้ดูแลห้องประชุม…

ถ้าเรามีแผนที่จะจัดประชุมเรื่องใดเรื่องหนึ่งและมีกำหนดเวลาชัดเจนแล้ว เราสามารถสร้างตารางการประชุมล่วงหน้าไว้ได้ โดย zoom จะเตือนล่วงหน้าเมื่อใกล้เวลาประชุม…

เมื่อเปิดประชุมด้วยโปรแกรม zoom เราสามารถบันทึกการประชุมเก็บไว้ได้ เพื่อนำไปแชร์ต่อหรือเพื่อกลับมาทบทวนเนื้อหาการประชุมย้อนหลัง ซึ่งโดยปกติผู้ที่มีสิทธิ์บันทึกการประชุมก็คือผู้เปิดห้องประชุมนั่นเอง…

ในขณะที่กำลังประชุมผ่านโปรแกรม zoom นอกจากเราจะสามารถประชุมแบบเห็นหน้ากันโดยการเปิดวิดีโอแล้ว เรายังสามารถแชร์หน้าจอให้ผู้ร่วมประชุมคนอื่น ๆ…

ถ้าฉากหลังของที่ประชุมของเราแลดูไม่สวยงาม ไม่อยากจะให้ใครเห็น หรืออยากจะใช้ฉากหลังอื่น ๆ ที่สวยกว่า…

ถ้าบนคอมพิวเตอร์ของเรามีอุปกรณ์วิดีโอหลายตัว เช่น กล้องที่มาพร้อมกับ Notebook และกล้องเว็บแคมที่ซื้อมาติดเพิ่มเติม…

หากในตอนเข้าร่วมประชุมเราไม่ได้เชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงคือไมโครโฟนและลำโพงไว้ก่อน จะไม่สามารถสนทนากับผู้ร่วมประชุมคนอื่น ๆ และไม่ได้ยินเสียงของผู้ร่วมประชุมคนอื่น ดังนั้น…

บางทีผู้ร่วมประชุมบางคนก็ตั้งชื่อแทนตัวเองแปลก ๆ ทำให้ดูไม่ออกว่าเป็นใครกันแน่ เราสามารถเปลี่ยนชื่อของผู้ร่วมประชุมคนนั้นเพื่อให้ระบุตัวได้ชัดเจนว่าเป็นใคร เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการสื่อสาร…

ในขณะประชุม ผู้ร่วมประชุมทุกคนสามารถควบคุมไมโครโฟนของตนเองได้อย่างอิสระ สามารถะเปิดหรือปิดไมโครโฟนของตนเองได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ส่วนเจ้าของห้องประชุม (Host)…

ในการประชุมทางไกลผ่านโปรแกรม zoom นั้น เราสามารถประชุมแบบเห็นหน้าได้โดยการเปิดวิดีโอ และเมื่อมีผู้เข้าร่วมประชุมหลายคน…

โดยปกติเมื่อสร้างห้องประชุมครั้งแรก โปรแกรมจะกำหนดชื่อห้องประชุมให้โดยอัตโนมัติ โดยจะมีรูปแบบเป็น ชื่อผู้เปิดห้องประชุม ตามด้วย…

หลังจากที่ได้เปิดห้องประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องทำแน่ ๆ ก็คือ การเชิญคนอื่นให้เข้าร่วมประชุม…

โดยปกติ เมื่อเราสมัครใช้งาน zoom ระบบจะสร้างห้องประชุมส่วนตัวให้เราโดยอัตโนม้ติ 1…

ห้องประชุมในโปรแกรม zoom นั้นจะมีอยู่ 2 แบบ…