ดีครับดอทคอม

ดีครับดอทคอม

ฟังก์ชัน LEFT ใน Excel ตัดเอาอักขระด้านซ้าย (ด้านหน้า) ของข้อความ

ฟังก์ชัน LEFT ใน Excel ตัดเอาอักขระด้านซ้าย (ด้านหน้า) ของข้อความ

ฟังก์ชัน LEFT ใช้สำหรับตัดเอาอักขระจากทางด้านซ้าย (ด้านหน้า) และคืนค่ากลับมาเป็นอักขระตามจำนวนที่ระบุ (เริ่มจากอักขระตัวแรก) มีรูปแบบการใช้งานดังนี้ สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน LEFT สมมติว่าเรามีข้อมูลดังภาพ เรามีข้อมูลอยูในเซลล์ A1 ดังนี้ “Aenean Gravida Ultrices Mauris Ut.” ถ้าใช้ฟังก์ชัน LEFT โดยไม่ระบุจำนวนตัวอักษรที่ต้องการ จะได้ผลลัพธ์เป็นตัวอักษรตัวแรกคือ “A” ถ้าระบุจำนวนเป็น 0 จะไม่มีการคืนค่าใด ๆ กลับมา ถ้าระบุจำนวนมากกว่า 0 จะได้ผลลัพธ์เป็นอักขระตามจำนวนที่ระบุ นับจากทางซ้าย (ด้านหน้า) ถ้าระบุจำนวนมากกว่าความยาวของข้อความ จะได้ผลลัพธ์เป็นอักขระทั้งหมดในข้อความ

แปลงตัวอักษรทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์เล็กแต่ให้ตัวอักษรแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ใน Excel

แปลงตัวอักษรทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์เล็กแต่ให้ตัวอักษรแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ใน Excel

ถ้าต้องการให้ตัวอักษรทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ สามารถใช้ฟังก์ชัน UPPER() เข้ามาช่วยได้ ถ้าต้องการให้ตัวอักษรทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์เล็ก สามารถใช้ฟังก์ชัน LOWER() เข้ามาช่วยได้ แต่ถ้าต้องการให้ตัวอักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ส่วนตัวอักษรอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์เล็ก ก็ต้องประยุกต์กันหน่อยละครับ สมมติว่าเรามีข้อมูลดังนี้ เราต้องการแปลงข้อมูลในคอลัมน์ A ให้ตัวอักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ส่วนที่เหลือให้เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด เราจะเริ่มที่เซลล์ B1 นะครับ ให้เขียนสูตที่เซลล์ B1 ดังนี้ สามารถอธิบายการทำงานของสูตรได้ดังนี้ เราก็จะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ คือตัวอักษรตัวแรกในเซลล์เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ส่วนตัวอักษรตัวอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์เล็ก เมื่อคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น ๆ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์

วิธีแปลงตัวอักษรตัวแรกในแถวให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ใน Excel

วิธีแปลงตัวอักษรตัวแรกในแถวให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ใน Excel

ถ้าเรามีข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษและต้องการให้ตัวอักษรตัวแรกในแต่ละเซลล์เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ สามารถทำได้โดยนำฟังก์ชัน UPPER() LEFT() RIGHT() และ LEN() มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน สมมติว่าเรามีข้อมูลดังนี้ ที่คอลัมน์ A คือข้อมูลของเรา เราต้องการให้ตัวอักษรตัวแรกในแต่ละเซลล์เป็นตัวพิมพ์ใหญ่และนำมาเก็บไว้ที่คอลัมน์ B สามารถทำได้โดยเขียนสูตรดังนี้ การทำงานของสูตร สามารถอธิบายได้ดังนี้ เราก็จะได้ผลลัพธ์เป็นข้อความที่มีตัวอักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ตามต้องการ เมื่อคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น ๆ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ หมายเหตุ : วิธีนี้ เพียงแปลงตัวอักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้น ส่วนตัวอื่น ๆ เป็นอย่างไรก็จะยังคงเป็นอย่างนั้น จะไม่ถูกแปลงเป็นพิมพ์เล็กแต่อย่างใด ถ้าต้องการให้ตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ และบังคับให้ตัวอื่น ๆ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด สามารถศึกษาวิธีทำได้ที่บทความ แปลงตัวอักษรทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์เล็กแต่ให้ตัวอักษรแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่

ใช้ Excel คำนวณอายุเป็น ปี เดือน วัน รวมไว้ในเซลล์เดียวกัน

ใช้ Excel คำนวณอายุเป็น ปี เดือน วัน รวมไว้ในเซลล์เดียวกัน

ถ้าต้องการคำนวณอายุของบุคคลให้แสดงผลแบบ ปี เดือน วัน เราสามารถใช้ฟังก์ชัน IF() รวมกับฟังก์ชัน DATEDIF() มาช่วยเราทำงานได้ สมมติว่าเราต้องการข้อมูลดังภาพด่านล่าง จากตัวอย่าง ถ้าอายุเป็นจำนวนปีบริบูรณ์ เราจะแสดงเฉพาะปี ถ้าอายุมีเศษเป็นเดือน แต่ไม่มีเศษเป็นวัน เราก็จะแสดงเฉพาะปีและเดือน สรุปว่า แสดงเฉพาะข้อมูลที่ไม่เป็น 0 นั่นเอง จากข้อมูลตัวอย่าง เราเก็บข้อมูลวันเกิดไว้ที่คอลัมน์ B เราจะเขียนสูตรคำนวณอายุของคนแรกก่อน โดยการเขียนสูตรที่เซลล์ C2 ดังนี้ จากสูตร ขออธิบายไล่ตามลำดับดังนี้ จากสูตร เราจะได้ผลลัพธ์เป็นอายุในรูปแบบ ปี เดือน และ วัน ตามเงื่อนไขที่กำหนด เมื่อคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น ๆ ก็จะได้ข้อมูลที่สมบูรณ์แบบตามที่เราต้องการ ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ

คำนวณอายุ นับจากวันเกิดจนถึงวันตามที่กำหนด ใน Excel

คำนวณอายุ นับจากวันเกิดจนถึงวันตามที่กำหนด ใน Excel

โดยปกติการคำนวณอายุ เราจะคำนวณอายุจากวันเกิดถึงวันปัจจุบัน แต่อาจมีบางกรณีที่เราต้องการคำนวณอายุจากวันเกิดถึงวันใดวันหนึ่ง เช่น คำนวณตั้งแต่วันเกิดจนถึงวันเสียชีวิต ว่าบุคคลนั้น ๆ มีอายุเท่าไหร่ หรือคำนวณตั้งแต่วันเกิดถึงวันใดวันหนึ่งในอนาคต เช่น ต้องการรู้ล่วงหน้าว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า บุคคลนั้น ๆ จะมีอายุเท่าไหร่ เป็นต้น ไม่ว่าจะคำนวณแบบไหนหรือด้วยจุดประสงค์ใด เราสามารถใช้ฟังก์ชัน DATEDIF() ของ Excel มาช่วยในการคำนวณได้ สมมติว่าเรามีข้อมูลตัวอย่างดังนี้ จากตัวอย่าง เราต้องการรู้ว่าในวันที่ 30 เดือน มิ.ย. ปี ค.ศ. 2027 บุคคลตามตัวอย่างจะมีอายุเท่าไหร่ หมายเหตุ : ปี เราใช้เป็น ค.ศ. นะครับ…

แยกข้อมูลหลายๆ แถวที่รวมอยู่ในเซลล์เดียวออกเป็นหลายแถวหลายคอลัมน์ ใน Excel

แยกข้อมูลหลายๆ แถวที่รวมอยู่ในเซลล์เดียวออกเป็นหลายแถวหลายคอลัมน์ ใน Excel

ถ้ามีข้อมูลหลาย ๆ แถวรวมกันอยู่ในเซลล์เดียว แล้วเราต้องการแยกข้อมูลเหล่านั้นออกเป็นหลายแถวหลายคอลัมน์ ใน Excel ก็สามารถทำได้ สมมติว่าเรามีข้อมูลดังนี้ จากตัวอย่าง เรามีข้อมูลเป็นรายชื่อนักเรียนจำนวน 5 คน อันประกอบด้วย ชื่อ นามสกุล และ ชั้น ซึ่งทั้งหมดรวมอยู่ในเซลล์เดียวกัน แต่เราต้องการแยกข้อมูลดังกล่าวให้อยู่คนละแถว คือข้อมูลของนักเรียนแต่ละคนให้แยกแถวกันและแบ่งคอลัมน์ให้ชัดเจน สามารถทำได้ดังนี้ หน้าต่าง Convert Text to Columns Wizard จะถูกเปิดขึ้นมา สเต็ปที่ 1 ให้ทำดังนี้ สเต็ปที่ 2 สเต็ปที่ 3 ข้อมูลนักเรียนแต่ละคนจะถูกแยกไปอยู่คนละคอลัมน์ หลังจากนั้น เราจะนำข้อมูลทั้งหมดที่ถูกเก็บในแนวนอนดังรูปด้านบน มาเก็บในแนวตั้ง คือให้อยู่คนละแถว…

วิธีลบแถวว่างใน Excel อย่างรวดเร็ว ในกรณีข้อมูลเยอะมากๆ

วิธีลบแถวว่างใน Excel อย่างรวดเร็ว ในกรณีข้อมูลเยอะมากๆ

วิธีลบแถวว่างใน Excel สามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่ละวิธีก็ได้ผลที่แตกต่างกัน จะเลือกใช้วิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลของเราครับ กรณีแถวว่างกับแถวไม่ว่างแยกกันชัดเจน ถ้าข้อมูลของเรามีแถวว่างแบบทุกเซลล์ไหนแถวนั้นว่างทั้งหมด และแถวอื่น ๆ ที่ต้องการเก็บไว ไม่มีเซลล์ไหนว่างเลย ดังตัวอย่าง จากตัวอย่าง ข้อมูลของเรามีแถวว่างอยู่ 4 แถว และแถวอื่น ๆ ไม่มีเซลล์ว่างปนอยู่เลย ข้อมูลแบบนี้ลบแถวว่างได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีดังนี้ครับ หน้าต่าง Go To Special จะถูกเปิดขึ้นมา แถวที่มีเซลล์ว่างจะถูกไฮไลต์ แถวที่ว่างจะถูกลบออกไป แถวถัดไปที่ไม่ว่างจะถูกเลื่อนขึ้นมาแทนที่ กรณีมีทั้งแถวที่ว่างทุกเซลล์และแถวที่ว่างเป็นบางเซลล์ ในกรณีที่ข้อมูลของเรามีบางแถวที่ว่างทุกเซลล์ และบางแถวว่างเป็นบางเซลล์ ถ้าใช้วิธีดังกล่าวข้างต้นนั้น ทุกแถวที่มีเซลล์ว่างอยู่จะถูกลบทิ้งทั้งหมด แต่บางทีเราอาจไม่ได้ต้องการเช่นนั้น เราอาจต้องการลบเฉพาะแถวที่ไม่มีข้อมูลใด ๆ เลย ส่วนแถวที่บางเซลล์มีข้อมูลบางเซลล์ว่าง…

คำนวณอายุงานของพนักงานใน Excel นับจากวันเริ่มงานถึงปัจจุบัน

คำนวณอายุงานของพนักงานใน Excel นับจากวันเริ่มงานถึงปัจจุบัน

ถ้าต้องการคำนวณอายุงานของพนักงาน นับจากวันที่เริ่มงานจนถึงวันปัจจุบัน ว่าแต่ละคนทำงานมาแล้วกี่ปี กี่เดือน กี่วัน เราสามารถใช้ฟังก์ชัน DATEDIF() มาช่วยในการคำนวณได้ โดยมีรูปแบบการใช้งานดังนี้ ข้อมูลตัวอย่างของเราในบทความนี้เป็นดังนี้ จากตัวอย่าง เราต้องการรู้ว่าแต่ละคนทำงานมาแล้วกี่ปี กี่เดือน และกี่วัน สามารถคำนวณได้ดังนี้ คำนวนปี เราจะเริ่มจากการคำนวณอายุงานเป็นปีก่อน โดยเขียนสูตรที่เซลล์ C3 ดังนี้ ทำการคัดลอกสูตรไปยังทุกเซลล์ก็ได้จะผลลัพธ์เป็นอายุงานในรูปแบบปีแบบเต็มตามที่ต้องการ คำนวณเดือน ต่อไปเราจะคำนวณเดือน โดยเขียนสูตรที่เซลล์ D3 ดังนี้ เมื่อคัดลอกสูตรไปยังทุกเซลล์ก็จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเดือน (ที่เป็นเศษจากการคำนวณปี) คำนวณวัน ต่อไปเราจะคำนวณวัน โดยเขียนสูตรที่เซลล์ E3 ดังนี้ เมื่อคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น ๆ ก็จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนวัน (ที่เป็นเศษจากการคำนวณเดือน) มาถึงตรงนี้ เราก็จะได้อายุงานของพนักงานในรูปแบบ ปี…

คำนวณอายุใน Excel นับจากวันเกิดถึงวันปัจจุบัน

คำนวณอายุใน Excel นับจากวันเกิดถึงวันปัจจุบัน

ถ้าต้องการคำนวณอายุบุคคลว่าแต่ละคนมีอายุเท่าไหร่ นับจากวันเกิดถึงวันปัจจุบัน เราสามารถใช้ฟังก์ชัน DATEDIF() มาช่วยในการคำนวณอายุได้ โดยมีรูปแบบการใช้งานดังนี้ ข้อมูลตัวอย่างของเราในบทความนี้เป็นดังนี้ จากข้อมูลตัวอย่างเราต้องการคำนวณอายุของแต่ละคนออกมาเป็นจำนวนปี เราจะเขียนสูตรที่เซลล์ C2 ดังนี้ จากสูตร เราจะได้ผลลัพธ์เป็นอายุของคนแรกในรูปแบบ ปีแบบเต็ม เมื่อคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น ๆ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ตามที่ต้องการ

วิธีตั้งค่าฟอนต์ที่ใช้ประจำให้เป็นฟอนต์เริ่มต้นใน Word

วิธีตั้งค่าฟอนต์ที่ใช้ประจำให้เป็นฟอนต์เริ่มต้นใน Word

โดยปกติ เมื่อเราเปิดโปรแกรม Microsoft Word ขึ้นมา Word จะมีฟอนต์เริ่มต้นให้เราใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่า ฟอนต์ดังกล่าวย่อมไม่ตรงกับฟอนต์ที่เราใช้อยู่เป็นประจำเป็นแน่ บางหน่วยงานอาจมีฟอนต์ที่กำหนดให้ใช้เป็นหลักอยู่แล้ว ทีนี้เวลาที่เราสร้างเอกสาร Word ขึ้นมาใหม่ เราก็ต้องคอยมากำหนดฟอนต์ใหม่ทุกครั้ง คงไม่ดีเท่าไหร่ ใน Word เราสามารถกำหนดให้ฟอนต์ที่เราใช้เป็นประจำเป็นฟอนต์เริ่มต้นได้ ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราไม่ต้องคอยมากำหนดฟอนต์ใหม่ทุกครั้งที่สร้างเอกสารใหม่ วิธีทำก็ไม่ยากครับ หน้าต่าง Font จะถูกเปิดขึ้นมา จะมี 2 ส่วนหลัก ๆ ที่เราต้องกำหนด ส่วนแรกคือ Latin text เป็นส่วนสำหรับกำหนดฟอนต์ภาษาอังกฤษ ให้เราตั้งค่าดังนี้ ส่วนที่ 2 คือ Complex scripts เป็นส่วนสำหรับกำหนดฟอนต์สำหรับภาษาไทย มีสิ่งที่ต้องตั้งค่าเหมือนกับฟอนต์ภาษาอังกฤษ…

แปลงตัวเลขจำนวนเงิน (บาท) เป็นคำอ่านภาษาอังกฤษ

แปลงตัวเลขจำนวนเงิน (บาท) เป็นคำอ่านภาษาอังกฤษ

ในกรณีที่เราต้องการแปลงตัวเลขจำนวนเงินให้เป็นคำอ่านภาษาไทย เราสามารถใช้ฟังก์ชัน BAHTTEXT() มาช่วยแปลงได้อย่างง่ายดาย อ่านวิธีใช้ได้ที่บทความนี้ แปลงตัวเลขจำนวนเงินเป็นคำอ่านภาษาไทยใน Excel แต่ถ้าต้องการแปลงตัวเลขจำนวนเงิน (บาท) เป็นภาษาอังกฤษ เราจำเป็นต้องเขียนฟังก์ชันขึ้นมาใช้งานเอง แล้วค่อยเรียกใช้ฟังก์ชันดังกล่าว สมมติว่าเรามีข้อมูลดังตาราง เรามีข้อมูลรายการสินค้าและราคาแล้ว และเราต้องการแสดงคำอ่านของราคาสินค้าเป็นภาษาอังกฤษ เราจะต้องสร้างฟังก์ชันสำหรับการแปลงตัวเลขค่าเงินเป็นภาษาอังกฤษเสียก่อน โดยมีวิธีการดังนี้ หมายเหตุ : ถ้าไม่มีแท็บ Developer ให้เปิดใช้งานก่อน โดยทำตามบทความนี้ วิธีเปิดใช้งานแท็บ Developer ใน Excel เพื่อใช้งาน VBA หน้าต่าง Microsoft Visual Basic for Applications จะถูกเปิดขึ้นมา หน้าต่างสำหรับเขียนโค้ดจะถูกเปิดขึ้นมา ให้คัดลอกโค้ดด้านล่างนี้ไปวาง จากโค้ดด้านบน เราสร้างฟังก์ชันที่ชื่อว่า…

วิธีเปิดใช้งานแท็บ Developer ใน Excel เพื่อใช้งาน VBA

วิธีเปิดใช้งานแท็บ Developer ใน Excel เพื่อใช้งาน VBA

ในกรณีที่เราจำเป็นต้องใช้งาน VBA เราจำเป็นต้องเปิดใช้งานแท็บ Developer ซึ่งเป็นแท็บที่รวมคำสั่งด้านการพัฒนา VBA และโดยปกติแท็บนี้ไม่ได้เปิดใช้งานตั้งแต่แรก เราต้องไปเปิดใช้งานเพิ่มเติมถ้าต้องการใช้งาน โดยวิธีการเปิดใช้งานก็ไม่ยากครับ ให้ทำดังนี้ หน้าต่าง Excel Options จะถูกเกิดขึ้นมา พร้อมโฟกัสที่แท็บ Customize Ribbon โดยอัตโนมัติ แท็บ Developer ก็จะพร้อมสำหรับการใช้งาน

แปลงตัวเลขจำนวนเงินเป็นคำอ่านภาษาไทยใน Excel

แปลงตัวเลขจำนวนเงินเป็นคำอ่านภาษาไทยใน Excel

ใน Excel มีฟังก์ชันสำหรับการแปลงตัวเลขที่เป็นค่าเงินให้กลายเป็นคำอ่านภาษาไทย ฟังก์ชันดังกล่าวมีชื่อว่า BAHTTEXT() มีรูปแบบการใช้งานดังนี้ ตัวอย่างการใช้งาน สมมติว่าเรามีข้อมูลดังรูปด้านล่าง เรามีราคาสินค้าเก็บอยู่ที่คอลัมน์ B (เริ่มต้นที่เซลล์ B2) และต้องการแสดงคำอ่านของราคาสินค้าที่คอลัมน์ C (เริ่มต้นที่เซลล์ C2) เราสามารถเขียนสูตรได้ดังนี้ เราก็จะได้คำอ่านของราคาสินค้าเป็นภาษาไทยตามที่ต้องการ หลังจากนั้นทำการคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น ๆ ในคอลัมน์ C ก็จะได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ครับ

วิธีกรอกข้อมูลที่เหมือนกันทีละหลายชีทพร้อมกันใน Excel

วิธีกรอกข้อมูลที่เหมือนกันทีละหลายชีทพร้อมกันใน Excel

ในกรณีที่เราต้องการกรอกข้อมูลที่เหมือน ๆ กันในหลาย ๆ ชีท เช่น ข้อมูลคะแนนของนักเรียนที่ต้องแยกเป็นหลาย ๆ ชีทตามรายวิชา และแต่ละชีทประกอบด้วยข้อมูลเหมือนกันทั้งหมด เช่น เลขลำดับ ชื่อนักเรียน หัวคอลัมน์ เป็นต้น เราสามารถกรอกข้อมูลทั้งหมดพร้อมกันในทุก ๆ ชีทได้ในคราวเดียวกัน โดยวิธีการดังนี้ หลังจากนั้นกรอกข้อมูลตามที่ต้องการและจัดรูปแบบให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ ทุก ๆ ชีทที่เลือกไว้ก็จะมีข้อมูลและการจัดรูปแบบที่เหมือนกัน สะดวกดีนะครับ ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ

ตั้งค่าปรับความกว้างของคอลัมน์อัตโนมัติใน Excel

ตั้งค่าปรับความกว้างของคอลัมน์อัตโนมัติใน Excel

โดยปกติเวลาเราพิมพ์ข้อมูลที่ยาวเกินความกว้างของคอลัมน์ใน Excel เราสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์ให้พอดีกับความยาวของข้อมูลได้โดยการดับเบิ้ลคลิกที่เส้นแบ่งคอลัมน์ ตรงส่วนหัวของคอลัมน์ แต่วิธีนี้เราต้องทำเองบ่อย ๆ ทุกคอลัมน์ที่ต้องการปรับความกว้าง จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถตั้งค่าให้ Excel ปรับความกว้างของคอลัมน์ให้พอดีกับความยาวของข้อมูลโดยอัตโนมัติ มันต้องดีอยู่แล้ว จริงไหมครับ ซึ่งเราสามารถตั้งค่าดังกล่าวได้ด้วยวิธีดังนี้ หน้าต่าง Microsoft Visual Basic for Application จะถูกเปิดขึ้นมา ภายในหน้าต่างสำหรับเขียนโค้ด ให้คลิกที่ดร็อปดาวน์ลิสต์แล้วคลิกเลือก WorkSheet Excel จะสร้างโค้ดส่วนหนึ่งให้ ดังนี้ ให้เขียนโค้ด Cells.EntireColumn.AutoFit ระหว่างบรรทัดแรกกับบรรทัดสุดท้าย โดยโค้ดที่สมบูรณ์จะเป็นดังนี้ โดยโค้ดดังกล่าว เป็นการสั่งให้ปรับความกว้างของคอลัมน์ให้พอดีกับความยาวของข้อมูลโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงใน Worksheet เมื่อเขียนโค้ดเสร็จแล้ว ให้ปิดหน้าต่าง Microsoft Visual Basic for Application…

วิธีคำนวณผลรวมยอดขายสินค้าแบบรวดเร็วใน Excel ไม่ต้องเขียนสูตรเอง

วิธีคำนวณผลรวมยอดขายสินค้าแบบรวดเร็วใน Excel ไม่ต้องเขียนสูตรเอง

โดยปกติ เมื่อเราต้องการหาผลรวมของตัวเลข เช่น คำนวณผลรวมของยอดขายสินค้า เป็นต้น เราอาจจะใช้วิธีเขียนสูตรโดยใช้ฟังก์ชัน SUM() ก็ย่อมสามารถทำได้ง่าย ๆ ในบทความนี้จะแนะนำอีกวิธีหนึ่งที่สามารถหาผลรวมได้อย่างรวดเร็ว โดยการใช้คีย์ลัด และการใช้คำสั่ง AutoSum หาผลรวมโดยใช้คีย์ลัด จากข้อมูลตัวอย่างด้านบน เราต้องการแสดงผลรวมยอดขายสินค้าแต่ละรายการที่แถวด้านล่าง และแสดงผลรวมยอดขายสินค้ารายเดือนที่คอลัมน์ด้านขวา เราสามารถทำได้ดังนี้ เราก็จะได้ผลรวมของยอดขายสินค้าแต่ละรายการตามที่ต้องการ เมื่อคลิกดูที่เซลล์ผลรวมแต่ละเซลล์ ก็จะเห็นว่ามีสูตรอยู่ นั่นก็หมายความว่า วิธีนี้คือการคำนวณหาผลรวมโดยการเขียนสูตรนั่นเอง แต่มันสะดวกตรงที่ เราไม่ได้เขียนสูตรเอง ซึ่งคีย์ลัดที่เราใช้นั้นก็เป็นคีย์ลัดของคำสั่ง AutoSum นั่นเอง หาผลรวมด้วยคำสั่ง AutoSum ต่อไปเราจะหาผลรวมยอดขายสินค้ารายเดือน ให้ทำดังนี้ เราก็จะได้ผลรวมของยอดขายสินค้ารายเดือนตามที่ต้องการ ซึ่งทั้งสองวิธีที่แนะนำไป แท้ที่จริงแล้วคือวิธีเดียวกันนะครับ เป็นการหาผลรวมโดยการใช้คำสั่ง AutoSum ทั้งคู่ เพียงแค่วิธีแรกเป็นการใช้คีย์ลัด ส่วนวิธีที่สองเป็นการคลิกคำสั่งโดยตรง…

ใส่เลขลำดับใน Excel อย่างไรให้รันใหม่ได้เองทุกครั้งที่ลบแถว

ใส่เลขลำดับใน Excel อย่างไรให้รันใหม่ได้เองทุกครั้งที่ลบแถว

โดยปกติเวลาเราใส่เลขลำดับใน Excel เราอาจจะพิมพ์เข้าไปเองตรง ๆ หรือใช้ความสามารถของ Auto Fill ช่วยในการเติมตัวเลขอัตโนมัติ แต่ก็จะมีปัญหานิดหน่อยเวลาเราลบแถวในระหว่าง หรือแซกแถวใหม่ในระหว่าง ตัวเลขลำดับจะไม่ต่อเนื่องกัน เราก็ต้องมารันเลขลำดับใหม่ ถ้าข้อมูลเยอะหน่อยก็จะเสียเวลา หรือบางทีอาจกรอกเลขลำดับผิดไปก็ได้ จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถเขียนสูตรให้ใส่เลขลำดับให้ และเมื่อมีการลบแถว เลขลำดับดังกล่าวก็เรียงใหม่เองได้เลยโดยอัตโนมัติ บทความนี้ผมจะแนะนำวิธีเขียนสูตรใส่เลขลำดับให้สามารถรันใหม่ได้เองเมื่อมีการลบแถวครับ มาดูกันเลย ข้อมูลตัวอย่างของเรามี 2 คอลัมน์ คือ ลำดับ และ ชื่อ-สกุล เราจะใส่เลขลำดับโดยเขียนสูตรโดยเริ่มที่เซลล์ A2 ให้พิมพ์สูตรที่เซลล์ A2 ดังนี้ครับ สูตรด้านบนนั้น หมายความว่า ให้เอาเลขลำดับของแถวของเซลล์ปัจจุบันไปลบกับเลขลำดับแถวของเซลล์ A1 จะได้ผลลัพธ์เป็น 2-1 (เพราะเซลล์ที่เราเขียนสูตรไปนั้นอยู่ที่แถว 2) เท่ากับ…

วิธีแยกคำนำหน้า – ชื่อ – นามสกุล ใน Excel

วิธีแยกคำนำหน้า – ชื่อ – นามสกุล ใน Excel

โดยปกติ ถ้าเรามีข้อมูลที่มีชื่อและนามสกุลอยู่ในคอลัมน์เดียวกัน เราสามารถแยกชื่อและนามสกุลดังกล่าวออกไปไว้คนละคอลัมน์ได้ง่าย ๆ เพราะโดยปกติ ชื่อและนามสกุลจะแยกกันชัดเจน คือจะคั่นด้วยการเคาะเว้นวรรคอยู่แล้ว ดังนั้น เราสามารถใช้ความสามารถของ Flash Fill หรือฟังก์ชัน Text to Columns เพื่อแยกชื่อแนะนามสกุลออกจากกันได้อย่างง่ายดาย แต่ในกรณีที่มีคำนำหน้าชื่อมาด้วย ถ้าคำนำหน้าชื่อกับชื่อแยกกันด้วยช่องว่างหรือเครื่องหมายใด ๆ ก็คงไม่ใช่ปัญหา แต่โดยปกติแล้ว คำนำหน้าชื่อกับชื่อมักจะมาในรูปแบบที่ติดกัน ดังตัวอย่าง จากตัวอย่าง ชื่อและนามสกุลแยกกันด้วยช่องว่าง แต่คำนำหน้ากับชื่อพิมพ์ติดกันมา ถ้าเราจะใช้ Flash Fill หรือ Text to Columns แยกคำนำหน้า ชื่อ และนามสกุล ไว้คนละคอลัมน์ เราจำเป็นจะต้องทำคำนำหน้าและชื่อให้แยกกันอย่างชัดเจนก่อน โดยในบทความนี้ผมจะพาทำด้วยวิธีการแทนค่า ดังนี้…

เขียนสูตรรันเลขลำดับแบบข้ามบรรทัดใน Excel

เขียนสูตรรันเลขลำดับแบบข้ามบรรทัดใน Excel

โดยปกติ ถ้าเราต้องการสร้างเลขลำดับใน Excel นั้น เราสามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยความสามารถของ Auto Fill แต่ถ้าต้องการต้องการสร้างเลขลำดับแบบกระโดดข้ามบรรทัด อันนี้จะใช้ Auto Fill ไม่ได้แล้ว เราต้องอาศัยการเขียนสูตร ในบทความนี้ผมจะแนะนำการเขียนสูตรสร้างเลขลำดับ ซึ่งจะสามารถสร้างเลขลำดับได้ตามเงื่อนไขที่เรากำหนด สมมติว่าเรามีข้อมูลดังภาพด้านล่าง จากข้อมูลตัวอย่างด้านบน เราต้องการใส่เลขลำดับเฉพาะแถวที่มีชื่อพนักงานเท่านั้น แถวไหนไม่มีชื่อพนักงานเราจะปล่อยว่างไว้ ในกรณีเช่นนี้เราจะต้องเขียนสูตร เพื่อให้ Excel รันเลขลำดับตามเงื่อนไขที่เราต้องการ จากข้อมูลตัวอย่าง เราจะรันเลขลำดับในคอลัมน์ A โดยจะเริ่มลำดับแรกที่เซลล์ A2 ดังนั้น เราจะเขียนสูตรที่เซลล์ A2 ดังนี้ สูตรด้านบน จะทำงานดังนี้ จะได้ผลลัพธ์ดังนี้ เมื่อเขียนสูตรและได้ผลลัพธ์เรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราก็สามารถคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น ๆ ได้เลย เมื่อคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น…

วิธีแยกชื่อ-นามสกุล ใน Excel

วิธีแยกชื่อ-นามสกุล ใน Excel

บางทีเรามีข้อมูลใน Excel ที่อยู่ในคอลัมน์เดียวกัน แต่อยากจะแยกออกมาให้อยู่คนละคอลัมน์ เช่น ข้อมูลชื่อกับนามสกุล ที่อยู่ในคอลัมน์เดียวกัน แบบนี้ จากข้อมูลตัวอย่าง ข้อมูล ชื่อ และ นามสกุล ถูกเก็บอยู่ในคอลัมน์เดียวกัน ซึ่งระหว่างชื่อกับนามสกุลนั้นก็ถูกคั่นด้วยการเคาะเว้นวรรค ถ้าเราต้องการแยกชื่อและนามสกุลออกมาอยู่คนละคอลัมน์ ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี ดังนี้ แยกชื่อ-นามสกุล ด้วย Flash Fill ใน Excel เวอร์ชัน 2013 ขึ้นไป มีฟังก์ชัน Flash Fill ให้เราใช้งานในการเติมข้อมูลอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราสามารถใช้ Flash Fill มาช่วยเราแยกชื่อและนามสกุลออกจากกันได้ โดยมีวิธีการดังนี้ พิมพ์ชื่อของคนแรกที่เซลล์แรกที่ต้องการให้แสดงชื่อ แล้วกดปุ่ม Enter เซลล์ถัดไปทางด้านล่างจะถูกโฟกัส…

จำลอง Server รัน Apache, PHP, MySQL และ phpMyAdmin ด้วย MAMP

จำลอง Server รัน Apache, PHP, MySQL และ phpMyAdmin ด้วย MAMP

สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ด้วยการเขียนโปรแกรมภาษา PHP หรือการพัฒนาเว็บไซต์ด้วย CMS ฟรี ที่พัฒนาด้วยภาษา PHP เช่น WordPress, Joomla, Moodle LMS เป็นต้น จำเป็นต้องทำเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราให้มีสภาพแวดล้อมเหมือนเป็น Server เครื่องหนึ่ง เช่น ต้องติดตั้ง Apache ซึ่งทำหน้าที่เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์, PHP ซึ่งเป็นตัวแปรภาษา PHP, MySQL สำหรับจัดเก็บฐานข้อมูล และ phpMyAdmin สำหรับจัดการกับฐานข้อมูล เป็นต้น ซึ่งก็จะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากอยู่พอสมควร แต่ก็มี Software หลายตัวที่ถูกพัฒนามาเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของการจัดสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ของเราให้ทำงานได้เหมือน Server เครื่องหนึ่ง ทำให้เราสามารถพัฒนาและทดสอบเว็บไซต์บนคอมพิวเตอร์ของเราก่อนที่จะนำไปอัปโหลดขึ้นบน Server จริงได้ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวที่รู้จักกันดีก็เช่น Xampp,…

แนะนำโปรแกรมตัดเกรดออนไลน์ พร้อม Export เป็น Excel ทั้งง่าย ทั้งสะดวก

โปรแกรมตัดเกรดออนไลน์

แนะนำโปรแกรมตัดเกรดออนไลน์ พร้อม Export เป็น Excel ทั้งง่าย ทั้งสะดวก สวัสดีครับทุก ๆ ท่าน สำหรับบทความนี้ ดีครับดอทคอม จะมาแนะนำโปรแกรมตัดเกรดออนไลน์ ซึ่งเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้กับคุณครูทุก ๆ ท่านได้เป็นอย่างดี โดยคุณสมบัติของโปรแกรมดังกล่าวมีดังนี้ครับ เดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าโปรแกรมนี้ใช้งานอย่างไร โปรแกรมนี้เป็น Web Application สามารถใช้งานออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ URL นี้ครับ ➡ ในหน้าโปรแกรมตัดเกรดออนไลน์ จะมีส่วนหลัก ๆ ให้เราใช้งาน 2 ส่วน ดังนี้ ข้อมูลทั่วไป ส่วนแรกเป็นส่วนข้อมูลทั่วไปให้เรากรอกข้อมูลรายวิชาที่จะทำการตัดเกรด ซึ่งมีช่องกรอกข้อมูลดังนี้ ช่องข้อมูลลำดับ 1-7 จะถูกนำไปใช้ตอน…

Moodle 4 ตอนที่ 1 ดาวน์โหลดและติดตั้ง

Moodle 4 ตอนที่ 1 ดาวน์โหลดและติดตั้ง

สวัสดีทุกท่านครับ สำหรับบทความนี้ผมจะแนะนำวิธีดาวน์โหลดและติดตั้ง Moodle 4 ซึ่ง ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ Moodle เดินทางมาถึงเวอร์ชัน 4.2.1 แล้วนะครับ สำหรับเนื้อหาในบทความนี้ มี 4 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้ จำลอง Server ด้วย WampServer เนื่องจาก Moodle เป็น LMS ที่พัฒนาด้วยภาษา PHP ดังนั้น การที่เราจะติดตั้งและใช้งาน Moodle ได้ เราต้องทำคอมพิวเตอร์ของเราให้มีสภาพแวดล้อมเหมือน Server ก่อน โดยในบทความนี้ผมจะแนะนำซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า WampServer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับจำลอง Server ที่ดีมากตัวหนึ่ง สำหรับตัวโปรแกรม…

จำลอง Server รัน Apache, PHP, MySQL และ phpMyAdmin ด้วย WampServer

จำลอง Server รัน Apache, PHP, MySQL และ phpMyAdmin ด้วย WampServer

สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ด้วยการเขียนโปรแกรมภาษา PHP หรือการพัฒนาเว็บไซต์ด้วย CMS ฟรี ที่พัฒนาด้วยภาษา PHP เช่น WordPress, Joomla, Moodle LMS เป็นต้น จำเป็นต้องทำเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราให้มีสภาพแวดล้อมเหมือนเป็น Server เครื่องหนึ่ง เช่น ต้องติดตั้ง Apache ซึ่งทำหน้าที่เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์, PHP ซึ่งเป็นตัวแปรภาษา PHP, MySQL สำหรับจัดเก็บฐานข้อมูล และ phpMyAdmin สำหรับจัดการกับฐานข้อมูล เป็นต้น ซึ่งก็จะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากอยู่พอสมควร แต่ก็มี Software หลายตัวที่ถูกพัฒนามาเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของการจัดสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ของเราให้ทำงานได้เหมือน Server เครื่องหนึ่ง ทำให้เราสามารถพัฒนาและทดสอบเว็บไซต์บนคอมพิวเตอร์ของเราก่อนที่จะนำไปอัปโหลดขึ้นบน Server จริงได้ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวที่รู้จักกันดีก็เช่น Xampp,…